EmptyVillain หลุดไปเป็นนางร้าย ขออยู่เงียบๆก็เเล้วกัน - นิยาย EmptyVillain หลุดไปเป็นนางร้าย ขออยู่เงียบๆก็เเล้วกัน : Dek-D.com - Writer
×

    EmptyVillain หลุดไปเป็นนางร้าย ขออยู่เงียบๆก็เเล้วกัน

    การถูกหันหลังให้ ทำให้ข้าได้เข้าใจอย่างท่องแท้..ว่า..ข้ามันว่างเปล่า มากเกินไป

    ผู้เข้าชมรวม

    5,893

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    5.89K

    ความคิดเห็น


    87

    คนติดตาม


    414
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.พ. 64 / 00:41 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     






    ทำไม!!คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไง

                    เสียงตวาดของชายร่างทำให้ร่างบางของหญิงสาวสะดุ้งน้อยๆอย่างตกใจ เมื่อได้สติเสียงเล็กแหลมก็ตวาดหลับไปบ้างอย่างไม่น้อยหน้า

    แล้วจะทำไม?คุณคิดว่าฉันไม่รู้หรอว่าคุณแอบไปมีใหม่ พอคราวฉันมีใหม่บ้างคุณก็มาด่าฉันเหอะ!ตลก

     

                    เสียงทะเลาะเบาะแว้งของสองสามีภรรยาทำชาวบ้านระแวดนั้นออกมามุมดุอยู่หน้าบ้านแถบจะทันทีพร้อมกับคำซุบซิบนินทาที่ตามมา..

     

    ทะเลาะกันอีกแล้ว

    ไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องกันเลย

                    และเสียงนินทาอีกมากมายที่ชาวบ้านพากันพุดคุย

     

     

     

                    ห่างออกไปไม่ไกล..บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง ปรากฏร่างบอบบางของเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งกำลังนั่งไขว่ห้างเล่นอยู่..

    ใบหน้างดงามดั่งตุ๊กตากระเบื้องเคลือบชั้นยอดจ้องมองสองสามีภรรยาที่กำลังทะเลาะกันอยู่ด้วยแววตาเฉยชา

    นัยน์ตาสีแดงดั่งโลหิตเรียบเฉยกับเหตุการณ์ที่ได้เห็น เส้นผมดำขลับดั่งขนอีกาปลิวไปตามลมยามที่สายลมพัดผ่าน         ริมฝีปากบางสีเชอรี่เอ่ยถ้อยคำออกมาอย่างเบื่อหน่าย..

    น่าเบื่อ

                    เสียงหวานดั่งนกไนติงเกลเอ่ยออกมาอย่างเบื่อหน่ายที่สุด เมื่อละครฉากแรกจบไปแล้วขาเรียวก็ค่อยๆยันตัวขึ้นปลายนิ้วถูยืนออกไปช้าๆก็จะตวัดผ่านเป็นตัวอักษรบางอย่าง.. ทันใดนั้นมวลอาการรอบตัวเริ่มบิดเบี้ยว จนในที่สุดหลุมสีขาวรูปวงรีก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเธอ ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวเข้าไปในหลุดขาวจนหมด เธอได้ทิ้งคำพูดเอาไว้..

    “..พวกเจ้าหาฉันไม่เจอหรอก..”

     

    ..เหล่าอวยเทพและอัครทูตทั้งหลาย..

     

     

                    ภายในหลุมสีขาว ขาเรียวยาวเดินผ่านประตูที่ขนานสองข้างทางบานแล้วบานเล่า ซึ่งประตูสีขาวกรอบทองที่ขนานกับนั้น..ไม่ใช่ประตูธรรมดา แต่เป็น ประตูมิติ ที่ถูกเธอ พิชิต มาแล้วทั้งสิ้น..

     

                    ประตูมิติแต่ละบานสามารถเชื่อมต่อโลกอีกมิติหนึ่งได้ แต่ทว่า..บางสิ่งบางอย่างล้วนมีขอแม้..

    และขอแม้ที่ว่านั้นคือ..

    หนึ่งประตู..ต่อ..หนึ่งโลก

     

                    ร่างบอบบางราวเด็กสาว หยุดลงหน้าบานประตูที่อยู่ลึกที่สุด โดยที่ร่างของเธอนั้นค่อยๆสลายกลายเป็นละอองสีแดงเล็กๆจนไม่เหลือกายหยาบ ละอองสีแดงเหล่านั้นค่อยๆลอยซึมเข้าบานประตูสีขาวอย่างรวดเร็ว..

                    หลังจากที่ละอองสีแดงซึมเข้าบานประตูไปจนหมดแล้ว..ปรากฏป้ายพื้นขาวอักษรสีทองขึ้น..

     

    {Welcome To Otome Boy}

    :: My heart เธอคือดวงใจของผม::

     

              ประตูอันดับที่300แล้วสินะ” ข้าเอ่ยปากขึ้นทามกลางความมืด การเดินทางข้ามมิติเป็นงานอดิเรกยามว่างหรือเบื่อโลกมนุษย์มากเกินไป..สำหรับข้ามนุษย์ก็เหมือนมดปลวกที่รวมไม้รวมแรงสร้างสร้างสถานที่ที่เรียกว่ารูปปั้นขึ้นมาโดยที่ไม่มีรูปปั้นของข้าอยู่นั้นในเลย..สักรูปก็ไม่มี รูปปั้นที่พวกมดปลวกสร้างขึ้นมามักจะเป็นเหล่าพวกโหลนของโหลนข้าสักมากกว่า

     

                            ข้าจะเล่าย้อนกลับไปเมื่อแสนล้านปีก่อนที่พวกมดปลวกจะเกิด ข้าซึ่งอยู่เดี่ยวดายบนความมืดอันไร้ที่สุดจึงเกิดความรู้สึกเหงาขึ้นมา จึงได้ให้กำเนิดบุตรสองคนด้วยตัวคนเดียวเป็นครั้งแรก เผื่อว่าเขาสองคนจะทำให้ชีวิตของข้าดูไม่น่าเบื่อขึ้นมาบ้าง..

    ..แต่เปล่าเลย..

     

                            บุตรทั้งสองของข้าเลือกที่จะหันหลังและเมินเฉยต่อข้าผู้เป็นผู้ให้กำเนิด เขาทั้งสองหันไปเลือกจับคู่ให้กำเนิดหลานให้กับข้า..แต่แล้วทุกอย่างก็ยังคงเช่นเดิมหลานข้าได้หันหลังให้กับข้าผู้อยู่จุดสูงสุด ข้าเฝ้ามองพวกเขาเติบใหญ่และรวมมือสร้างโลกสีครามขึ้นมา..และพวกเขายังคงเมินเฉยต่อข้าเสมอต้นเสมอปลายไม่มีการเล่าเรื่องราวของข้าให้โหลนฟัง..

                    ในตอนนั้นเองข้าก็ได้เข้าใจอย่างท่องแท้ว่า..ข้าไม่เคยอยู่ในชีวิตของพวกเขามาตั้งแต่แรกแล้วเพราะข้าว่างเปล่ามากเกินไป ในวินาทีที่ข้าเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างของเหลวสีใสก็ไหลผ่านแก้มโดยที่ข้าไม่รู้สึกตัวแล้วแม้แต่น้อย..

     

                     สิ่งนี้คือสิ่งใด เหตุใดมันถึงได้ไหลออกมาจากดวงตาของข้า?”

     

    ..นั้นคือคำถามแรกที่ข้าถามกับตัวเอง..

     

     

                            ข้าสงสัยของเหลวที่ไหลลงมาจากดวงข้าเป็นอย่างมาก หยดแล้วหยดเล่าที่ไหลลงมา..

                    หยดที่หนึ่ง..กลายเป็นกลุ่มก้อนกลมๆที่ส่องแสงหลากสี

                    หยดที่สอง..กลายเป็นก้อนกลมๆหนึ่งก้อนที่ส่องแสงสว่างเจิดจ้ามากที่สุด ความสามารถของมันสามารถแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นเถ้าถ่าน..

                    และหยดสุดท้าย..หยดที่สาม..กลายเป็นหลุมสีดำอันมืดมิด ซึ้งมันสามารถดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป..

                    จากรอบกายของข้าซึ่งไร้ซึ้งสีสันใดๆในชีวิต กลับแปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพียงแค่น้ำตา..

     

    จนข้าได้มารู้ที่หลัง

     

    ..ว่าน้ำตาของข้า..

     

    ..คืออารมณ์และความรู้สึกของข้า..

     

    ..และข้าก็ได้เข้าใจ..

     

     

     

    ..ว่าข้าไม่ได้ว่างเปล่าเสมอไป..

     

     

                            ในที่สุดโลกสีครามที่บุตรของข้าสร้างก็เสร็จสมบูรณ์ เหล่าหลานๆต่างสมรสกับบุคคลกับเป็นที่รัก สายโลหิตของข้าก็ค่อยๆเริ่มเจือจางลง...

    จนจางหายไปในที่สุด

     

                            เวลาผ่านไปเนินนาน ข้าก็ได้กำเนิดบุตรอีกครั้งแต่คราวนี้ ไม่เหมือนครั้งเก่า บุตรของข้าที่ได้สายโลหิตจากข้าโดยตรงเป็นเด็กชายสองคนซึ่งมีเส้นผมสีขาวโพรนทั้งสอง ดวงตาสีส้มเหมือนเจ้าก้อนกลมๆที่เกิดจากน้ำตาหยดที่สองของข้า

                    บุตรชายทั้งสองของข้าเป็นอมตะต่างจากพี่ๆของเขา ที่สามารถมีอายุได้แค่สามล้านปี เขาทั้งสองมีพลังเป็นรองข้าอยู่หลายส่วน  แต่ก็มากกว่าพี่ๆของเขาเช่นกัน..

     

                    กาลเวลาผ่าไปสามล้านปี บุตรคนโตทั้งสองก็ค่อยๆแก่ชราลง พวกเราเริ่มแสวงหาวิธีคืนความเยาว์วัยให้แก่ตน

    หึ!!”

                            ข้าหัวเราะให้กับความน่าสมเพชและความทะเยอทะยานอันแสนจะไร้ค่าของพวกมัน ไม่ว่าจะ บุตร หลาน เหลน ล้วนโง่ขาดเขล่า ..

     

                    หึหึความเยาว์วัยงั้นรึ  เฮอะ!หาไปก็เสียเวลาเปล่า

     

     

    เพราะความเยาว์วัยนั้น

     

    ไม่สามารถนำมันกลับมาได้

     

    ยกเว้น

     

    บุตรแฝด

     

    และ

     

    ข้า!!


     

                            ข้าปล่อยให้พวกมันงมเข็มในความว่างเปล่าต่อไป เลิกสนใจพวกมันแล้วหันมาเลี้ยงดูบุตรที่ข้าให้กำเนิดขึ้นมาอีกครั้ง..

                            ตนที่หนึ่ง นาม อนาตาเซียร์  ที่ข้าให้ชื่อนี้เป็นเพราะว่าเจ้านี้มันอึด ไม่ว่าข้าจะเตะมันจนตัวลอยไปไกลเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง มันก็ยังสามารถวิ่งเข้ามากอดคลอเคลียข้าได้เหมือนเดิม..มันบ้า

     

                            ตนที่สอง นาม มาซีโอ ข้าให้นามนี้เพราะว่า มันเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด ไหวพริบเป็นเลิศ เสียอย่างเดียว..สายตาที่มันมองข้า มันฉายแววบางอย่างจนข้าต้องเป็นฝ่ายหลบตา สัญชาตญาณของข้ามันบอกว่า..เจ้าเด็กนี้...อย่าอยู่กับมันสองต่อสองเด็ดขาด!!

     

                            กาลเวลาผ่านไปเนินนานจากล้านปีเป็นร้อยล้านปี เด็กน้อยทั้งสองได้เติบใหญ่เป็นหนุ่มเต็มวัย ในขณะที่ข้ายังคงได้แต่อยู่ในวัยของเด็กสาวเท่านั้น... เวลาที่ได้อยู่กับทั้งสองมันชดเชยเวลาที่เสียไปให้กับข้าเป็นอย่างมาก ข้าได้รู้จักกับความรู้สึกที่เรียกว่า..ความสุข.. ในยามนั้นข้ามีความคิดที่จะให้อิสระกับพวกเขา ในฐานะที่ข้าเป็นมารดา..

    ในรัตติกาลอันกว้างใหญ่ ข้านอนกล่อมบุตรชายทั้งสองให้หลับใหลลงก่อนจะโรยผงนิทราที่ข้าสร้างขึ้นมา..

    ผงนี้จะทำให้เขาทั้งสองหลับลึกไปซักระยะ พอพวกเขาตื่นขึ้นมา..ข้าคงจะไม่อยู่แล้ว

     

                            “ไปก่อนนะ ดูแลตัวเองด้วย..”                    

     

                    ข้าบิดเบือนช่องว่างแห่งเวลาโดยอาศัยความว่างเปล่าเป็นสื่อกลาง จนข้าได้มาพบกับ..

     

    ประตูมิติ?




    เวลานั้นคือช่วงเวลาแห่งการผจญภัยของข้า






    Wr.T

              หัดแต่งเป็นครั้งแรก ไรท์มีนามปากกาว่า ปลายดาว ใครที่หลงเข้ามาก็สามารถลองอ่านดูก่อนได้ ติได้นะคะ การเรียบเรียงภาษาอาจไม่เก่ง ขอบคุณค่ะ^-^


    ปลายดาว

    ป.ล นิยายเรื่องนี้แฟนตาซี ฮาเร็ม  






     
    เครดิต: youtub

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น